ธุรกิจต้องรู้! 10 อันดับ เทรนด์เทคโนโลยีและนวัตกรรมการขนส่ง ปี 2023
ข้อมูลจาก Startus Insights กล่าวถึง Top 10 เทคโนโลยีที่ใช้ในภาคการขนส่ง ซึ่งปัจจุบันอยู่ในระหว่างการศึกษาพัฒนาและนำไปใช้งานแล้วในระดับโลกจากตัวอย่างธุรกิจจำนวน 5424 บริษัทในเดือนมกราคม 2023 ที่ผ่านมา และเนื่องจากงานขนส่งเป็นหนึ่งในหัวใจสำคัญของธุรกิจทุกประเภท จึงส่งผลต่อแนวทางการดำเนินงานของธุรกิจต่างๆ ในอนาคตเช่นกัน
เทรนด์ด้านการขนส่งนี้เกิดขึ้นพร้อมกับแนวคิดความต้องการวิธีการปฏิบัติงานที่เป็นระบบอัตโนมัติ การทำให้เป็นดิจิทัล และมีความยั่งยืนต่อสังคมและสภาพแวดล้อม โดยในภาคอุตสาหกรรมเริ่มลองใช้รถยนต์ขับเคลื่อนอัตโนมัติ (autonomous cars) รวมถึงใช้ระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่ หรือ ADAS เข้ามาร่วมด้วย ไปจนถึงการใช้เทคโนโลยี LiDAR ซึ่งจะช่วยสแกนสภาพแวดล้อมโดยรอบ ทำให้ตรวจจับวัตถุ การเคลื่อนไหว และสภาพพื้นที่ได้รอบตัวทั้งแนวนอนและแนวตั้ง ตลอดจนการใช้เทคโนโลยีโดรน หุ่นยนต์ และรถบรรทุกไร้คนขับ ในการขนส่งขั้นตอนสุดท้าย (Last-mile delivery) ซึ่งเป็นรูปแบบการขนส่งสินค้าจากร้านค้าส่งถึงที่อยู่ปลายทางลูกค้าโดยตรง
นอกจากนี้ ยังมีเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องกับโซลูชันการบริหารจัดการภายในซัพพลายเชนที่ใช้ AI, IoT และ blockchain เช่น การใช้ซอฟต์แวร์หรือระบบบริหารจัดการงานขนส่ง TMS และแพลตฟอร์มสำหรับการวิเคราะห์ข้อมูล เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน รวมถึงเทรนด์การให้บริการการเดินทางขนส่งในแบบ Mobility as a Service และ Smart Shipping ซึ่งทำให้เกิดแอปพลิเคชันใหม่ๆ สำหรับให้บริการด้านการขนส่ง
สรุป Top 10 เทคโนโลยีและนวัตกรรมการขนส่ง ในปี 2023
1. Autonomous Vehicles
รถยนต์ขับเคลื่อนอัตโนมัติ และระบบช่วยเหลือการขับขี่ต่างๆ เช่น ADAS, Lidar รวมถึงการใช้โดรนและหุ่นยนต์ส่งของ
2. Green Energy
การใช้พลังงานที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม หรือเทคโนโลยีที่ช่วยลดมลพิษต่อสิ่งแวดล้อม ตลอดจน การจัดการบรรทุกขนส่งที่ช่วยลดจำนวนการใช้ยานพาหนะบนท้องถนนลง
3. Electric Transportation
การใช้รถพลังงานไฟฟ้า (EV) เพื่อช่วยลดมลพิษทางอากาศและปฏิกิริยาเรือนกระจก รวมถึงมลภาวะทางเสียง ทั้งนี้ การใช้รถไฟฟ้าส่งผลให้มีความพยายามคิดค้นนวัตกรรมแบตเตอรี่อย่างต่อเนื่อง
4. Artificial Intelligence
ปัญญาประดิษฐ์ในระบบขนส่งใช้ในการตรวจสอบ คาดการณ์ และแจ้งเตือนเหตุการณ์ต่างๆ เช่น พฤติกรรมการขับรถ การง่วง หาว หลับใน ทำให้เกิดความปลอดภัยในการขับขี่ รวมถึงการใช้ AI เพื่อวิเคราะห์และบริหารการจัดรถบรรทุกสินค้าและเส้นทางการขนส่ง (Route Optimization)
5. Internet of Things
การใช้อินเทอร์เน็ตเพื่อเชื่อมโยงอุปกรณ์ที่ติดตั้งที่ตัวรถขนส่ง เช่น GPS, เซนเซอร์น้ำมัน ประตู อุณหภูมิ ระบบรักษาความปลอดภัยด้วยกล้อง MDVR ฯลฯ ซึ่งอุปกรณ์เหล่านี้ต้องอาศัยอินเทอร์เน็ตเพื่อให้สามารถส่ง-รับข้อมูลระหว่างรถและศูนย์ควบคุมได้แบบเรียลไทม์
6. Mobility as a Service
การให้บริการการเดินทางผ่านแพลตฟอร์ม เช่น Grab, Lineman, Robinhood
7. Blockchain
เทคโนโลยีเพื่อช่วยดูแลความปลอดภัย ทั้งในกระบวนการทำงานขนส่ง การเงิน และเอกสารต่างๆ
ระบบบริหารจัดการงานขนส่ง เทคโนโลยีที่ใช้ร่วมกับระบบ Fleet Management System สำหรับการวางแผนเที่ยววิ่ง การจัดสรรรถ และการติดตามควบคุมการขนส่งไปจนถึงที่หมาย เป็นระบบที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพธุรกิจและยังทำให้เห็นการปฎิบัติงานได้ตลอดทั้งซัพพลายเชน
9. Smart Shipping
ระบบการขนส่งอัจฉริยะ เป็นการใช้เทคโนโลยีเพื่อลดความผิดพลาดที่เกิดขึ้นจากมนุษย์และธรรมชาติ เพื่อทำให้เกิดความปลอดภัยหรือเพิ่มประสิทธิภาพของงานให้มากขึ้น เช่น การใช้เซนเซอร์หรือระบบอัตโนมัติช่วยควบคุม
การขนส่งขั้นตอนสุดท้าย ระหว่างร้านค้าถึงลูกค้าโดยตรง ใช้เทคโนโลยีเข้าช่วยการทำงานให้รวดเร็วขึ้น เช่น GPS เพื่อติดตามการสถานะการจัดส่งสินค้า ใช้โดรนและหุ่นยนต์ส่งของ