“ความยั่งยืน” คีย์เวิร์ดความสำเร็จธุรกิจยุค 2025


ความยั่งยืนสามารถสร้างความแตกต่างได้
ความยั่งยืนเป็นสิ่งที่ทุกองค์กรให้ความสำคัญเป็นอย่างมากในปัจจุบัน การพัฒนาอย่างยั่งยืนคือกระบวนการที่มุ่งหวังให้เกิดความเป็นอยู่ที่ดีของมนุษย์และสังคม การพัฒนาทางเศรษฐกิจ และเกิดความสมดุลในระบบนิเวศน์ โดยใช้นวัตกรรมและเทคโนโลยีมาบริหารจัดการกระบวนการภายในองค์กร ช่วยสนับสนุนการสร้างธุรกิจเพื่อความยั่งยืน
“ความยั่งยืน” และ “ธุรกิจเพื่อความยั่งยืน” คืออะไร
ความยั่งยืน (Sustainability) คือ ความสามารถของสังคมในการดำรงอยู่และพัฒนาโดยไม่ทำให้ทรัพยากรธรรมชาติที่จำเป็นต่อการดำรงชีวิตในอนาคตหมดสิ้นไป
แนวคิด “ความยั่งยืน” เกิดขึ้นจากความคิดที่ว่าทรัพยากรธรรมชาติบนโลกมีจำกัด ดังนั้นการสนับสนุนแนวทางปฏิบัติที่ยั่งยืนจะช่วยรักษาสมดุลระหว่างสิ่งแวดล้อม เศรษฐกิจ และความเท่าเทียมทางสังคม เพื่อควบคุมและลดการสูญเสียทรัพยากร โดยการพัฒนาอย่างยั่งยืนต้องอาศัยความร่วมมืออย่างต่อเนื่องและสม่ำเสมอจากทุกภาคส่วน ทั้งธุรกิจระดับโลก หน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน และประชาชนทั่วไป ซึ่งทุกคนสามารถมีส่วนร่วมในการสร้างอนาคตที่ยั่งยืนได้

“Sustainable Business” หรือ ธุรกิจเพื่อความยั่งยืน หมายถึง ธุรกิจที่ดำเนินงานโดยคำนึงถึงผลกระทบต่อเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม มุ่งสร้างสมดุลระหว่างการเติบโตทางธุรกิจ ที่ไม่ได้มุ่งหวังแค่ผลกำไรเพียงอย่างเดียว การสร้างคุณค่าให้กับสังคม และการรักษาสิ่งแวดล้อมให้คงอยู่ โดยมีการปรับเปลี่ยนรูปแบบหรือโมเดลธุรกิจให้สอดคล้องกับเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (Sustainable Development Goals) ที่สหประชาชาติกำหนดขึ้นเพื่อแก้ไขปัญหาด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และเศรษฐกิจ
ตัวอย่าง “การพัฒนาอย่างยั่งยืน” ในอุตสาหกรรมการขนส่งและโลจิสติกส์
การดำเนินงานในภาคขนส่งและโลจิสติกส์ส่งผลกระทบอย่างมากต่อสิ่งแวดล้อมเนื่องจากใช้พลังงานจำนวนมากทั้งในการขนส่งการจัดเก็บสินค้าและการจัดจำหน่าย ธุรกิจภาคโลจิสติกส์จึงจำเป็นต้องนำความยั่งยืนมาใช้และมีส่วนสนับสนุนอนาคตที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากขึ้น การสร้างโมเดลธุรกิจเพื่อความยั่งยืนมีหลายแนวทาง โดยหลักสำคัญคือการหาความสมดุลระหว่างการสร้างผลกำไร การสร้างคุณค่าให้กับลูกค้า และการลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม
ตัวอย่างกระบวนการจัดการธุรกิจเพื่อความยั่งยืนในอุตสาหกรรมการขนส่งและโลจิสติกส์ เช่น
- การจัดการคลังสินค้าสีเขียว เช่น การจัดการระบบความร้อน ความเย็น และแสงสว่างในคลังสินค้า การรีไซเคิลวัสดุเพื่อลดของเสีย การจัดการสินค้าคงคลังแบบ Just-in-Time
- การลดใช้พลังงานไฟฟ้าและน้ำ เช่น การออกแบบอาคารโรงงานให้ประหยัดพลังงาน การใช้พลังงานแสงอาทิตย์ การนำเทคโนโลยีด้านพลังงานมาใช้ในการดำเนินงาน การติดตั้งระบบรีไซเคิลน้ำ ระบบบำบัดน้ำเสีย ระบบระบายน้ำฝน ฯลฯ
- การจัดการการขนส่งสีเขียว เช่น การใช้รถยนต์ไฟฟ้าหรือใช้เชื้อเพลิงชีวภาพหรือไฮโดรเจน การเลือกยานพาหนะที่เหมาะสม การเพิ่มประสิทธิภาพเส้นทางขนส่งและลดการใช้เชื้อเพลิงด้วยเทคโนโลยีระบบ TMS และ VRP การซ่อมบำรุงยานพาหนะอย่างสม่ำเสมอ
- การจัดการวัสดุและจัดการขยะ เช่น การเลือกประเภทวัสดุบรรจุภัณฑ์ การคัดแยกขยะและรีไซเคิล การใช้ซ้ำหรือใช้ประโยชน์ใหม่ การเปลี่ยนเอกสารแบบกระดาษเป็นระบบอิเล็กทรอนิกส์
- การวัดและลดปริมาณการปล่อยคาร์บอน เช่น การกำหนดเป้าหมายในการลดการปล่อยคาร์บอน การประเมินการปล่อยคาร์บอนที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินงาน เช่น จากกองยาน การใช้พลังงานรูปแบบต่างๆ จากกิจกรรมภายในห่วงโซ่อุปทาน การติดตามและรายงานการปล่อยคาร์บอนอย่างสม่ำเสมอ

เลือกพันธมิตรเทคโนโลยีงานขนส่งที่คุณวางใจได้
NOSTRA LOGISTICS ผู้ให้บริการโซลูชันและแพลตฟอร์มเทคโนโลยีด้านการขนส่งอัจฉริยะ (Intelligent Transportation Platform) และระบบบริหารจัดการงานขนส่ง TMS พันธมิตรทางธุรกิจและเทคโนโลยีสำหรับงานโลจิสติกส์และซัพพลายเชน ด้วยประสบการณ์กว่า 20 ปีในการออกแบบและพัฒนาระบบสารสนเทศด้านโลจิสติกส์และการบูรณาการระบบ พร้อมทีมงานที่เชี่ยวชาญในการสร้างโซลูชันที่มีประสิทธิภาพเพื่อจัดการปัญหาด้านการขนส่งสำหรับองค์กรทุกขนาด